การจัดการกับอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างการทำ IVF และ ICSI
การทำ IVF หรือ การทำ ICSI อาจทำให้เกิดอารมณ์แปรปวนได้ แม้ว่าจะเป็นกระบวนการทางการแพทย์ แต่ก็ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน บางครั้งคุณแม่อาจรู้สึกมีความหวังหรืออาจรู้สึกท้อแท้ได้ ซึ่งผลกระทบทางอารมณ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง อย่างไรก็ตาม ด้วยการสนับสนุนและการดูแลรักษาที่เหมาะสม จะสามารถช่วยรักษาสมดุลทางอารมณ์ตลอดกระบวนการการทำเด็กหลอดแก้วได้
ปฏิกิริยาทางอารมณ์ระหว่างการรักษาภาวะมีบุตรยาก
เป็นเรื่องปกติที่ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกกังวล มีความหวัง หรือไม่แน่ใจในช่วงต่างๆ ของการทำ IVF หรือ ICSI โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องรอผลลัพธ์ การรับฮอร์โมน และความไม่แน่นอนของผลลัพธ์ ล้วนสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจหากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม การยอมรับว่าอารมณ์เหล่านี้เป็นเรื่องปกติ ถือเป็นก้าวแรกของการเตรียมตัวทางจิตใจที่ดี
จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Human Reproduction พบว่าผู้หญิงที่เข้ารับการรักษา IVF มักประสบกับความเครียดทางอารมณ์เพิ่มขึ้น รวมถึงความวิตกกังวลและความเศร้าที่มากขึ้น [อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานวิจัยนี้ คลิกที่นี่]
มุมมองที่เปลี่ยนไป ช่วยได้มากกว่าที่คิด
หากคุณสามารถมองว่าการรักษาเป็น “ก้าวหนึ่งของการเดินไปข้างหน้า” แทนที่จะมองว่าเป็น “ปัญหาที่ต้องแก้ไข” ก็จะช่วยให้จิตใจของคุณมั่นคงมากขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเพิกเฉยต่อวันที่ยากลำบาก แต่หมายถึงการให้คุณค่ากับการลงมือทำ และอดทนต่อกระบวนการของ IVF หรือ ICSI
มีรายงานในวารสาร Fertility and Sterility ระบุว่า คุณแม่ที่ฝึกปรับมุมมองและฝึกสมาธิจะสามารถควบคุมอารมณ์และความเครียดได้ดีกว่าระหว่างกระบวนการทำ IVF
เทคนิคช่วยจัดการความเครียด
ต่อไปนี้คือเทคนิคง่ายๆ ที่ช่วยให้ว่าที่คุณแม่หลายคนจัดการกับความเครียดระหว่างการรักษา:
- การทำสมาธิหรือฝึกหายใจสั้นๆ ทุกวัน
- การเคลื่อนไหวเบาๆ เช่น การยืดตัวหรือเดินเล่น
- การเขียนความคิดหรือความรู้สึกลงในสมุด
- การรักษาระเบียบเวลาในการนอนและมื้ออาหารให้คงที่
การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เหล่านี้สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษใดๆ [อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของสติในการลดความเครียดระหว่างการรักษาภาวะมีบุตรยาก คลิกที่นี่]
พึ่งพาขอการสนับสนุนจากคนรอบตัว
คุณไม่จำเป็นต้องผ่านการทำ IVF หรือ ICSI เพียงลำพัง การมีคู่ชีวิต ครอบครัว หรือเพื่อนๆ อย่าลืมว่ามีคนที่สามารถให้การช่วยเหลือและสนับสนุนคุณอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น คู่รัก ครอบครัว และเพื่อน นอกจากนี้ในประเทศไทย คุณยังสามารถพูดคุยกับนักให้คำปรึกษาด้านภาวะเจริญพันธุ์ หรือเข้าร่วมกลุ่มผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาเช่นเดียวกันได้อีกด้วย การช่วยเหลือสนับสนุนทั้งการดูแลเรื่องทั่วไปและอารมณ์ความรู้สึกของว่าที่คุณแม่ตลอดการทำ IVF หรือ ICSI นั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์การรักษา ลองอ่านวารสารนี้ซึ่งให้ข้อมูลไว้อย่างชัดเจน
คุณสามารถหากลุ่มสนับสนุนได้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่มีค่าใช้จ่าย และเปิดโอกาสให้คุณพูดคุยกับคนที่เข้าใจสถานะการณ์ของคุณจริงๆ
การมองเห็นความก้าวหน้า และรู้สึกขอบคุณ
ทุกขั้นตอนของ IVF หรือ ICSI มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดยา การไปอัลตราซาวด์ หรือได้รับผลตรวจ การสังเกตเห็นความก้าวหน้า แม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับก้าวถัดไป
เริ่มต้นก้าวต่อไปอย่างมั่นใจ
หากคุณกำลังพิจารณาการทำ IVF หรือ ICSI ในประเทศไทย ทีมงานของเรา ณ ศูนย์ Deep & Harmonicare IVF Center กรุงเทพฯ พร้อมให้บริการดูแลสุขภาพภาวะเจริญพันธุ์อย่างครบวงจรและได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ [คลิกที่นี่เพื่อติดต่อเรา]