“ออทิสติก” กับ “ดาวน์ซินโดรม” แตกต่างกันอย่างไร
หลายคนอาจคุ้นหูกับคำว่า “ออทิสติก” (Autism) และ “ดาวน์ซินโดรม” (Down Syndrome) ซึ่งมักถูกพูดถึงบ่อย ๆ เมื่อกล่าวถึงภาวะพัฒนาการที่แตกต่างของเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีหลายคนที่เข้าใจผิดคิดว่าออทิสติกและดาวน์ซินโดรมเป็นภาวะเดียวกัน ทั้งที่ความจริงแล้วทั้งสองภาวะนี้มี ความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่สาเหตุของการเกิด ลักษณะอาการ ไปจนถึงแนวทางการดูแลรักษา แต่ในความต่างก็มีความเหมือนกันในเรื่องของพัฒนาการของเด็ก ทั้งด้านการเรียนรู้ การเข้าสังคม และการสื่อสาร อีกทั้งยังต้องอาศัยการดูแลอย่างต่อเนื่อง
ในบทความนี้ จะพาคุณไปรู้จัก ออทิสติกและดาวน์ซินโดรมมีความแตกต่างและความเหมือนกันอย่างไร เข้าใจสาเหตุ ลักษณะอาการ การตรวจคัดกรอง รวมถึงวิธีการดูแลที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้สังคมมีมุมมองที่ถูกต้อง และพร้อมยอมรับความหลากหลายของมนุษย์มากขึ้น
ออทิสติก หรือ Autism Spectrum Disorder (ASD) คือ ภาวะผิดปกติของพัฒนาการทางสมองและระบบประสาทที่หลากหลาย ไม่พบความผิดปกติที่จำเพาะและไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงดู ภาวะนี้ทำให้บุคคลมีความแตกต่างในการ สื่อสาร การเข้าสังคม และพฤติกรรม
ลักษณะสำคัญของออทิสติก
ลักษณะภายนอก
| ไม่มีลักษณะเฉพาะภายนอกที่ต่างจากคนทั่วไป |
| พฤติกรรม
ไม่ค่อยสนใจเล่นกับคนอื่น ชอบอยู่คนเดียว ปรับตัวยากเมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป ชอบทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ หมกมุ่นกับสิ่งที่สนใจเฉพาะด้าน เช่น ตัวเลข เพลง หมุนของเล่นของแบบเดียวกัน |
การสื่อสาร
พูดช้า ไม่พูด หรือพูดซ้ำ ๆ
ไม่ค่อยสบตา ไม่ใช้ภาษากาย เช่น การชี้ การพยักหน้า
สาเหตุของออทิสติก
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับ อายุพ่อแม่ที่มากขึ้น ปัญหาระหว่างตั้งครรภ์ และการทำงานผิดปกติของสมองบางส่วน
แนวทางการดูแลรักษาออทิสติก
แนวทางการรักษาออทิสติก ใช้ยาช่วยควบคุมอาการร่วม เช่น ยากันชัก ยาช่วยลดอาการอยู่ไม่นิ่ง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ ด้านที่บกพร่อง เช่น
- การฝึกพูด การสื่อสาร การเข้าสังคม
- กิจกรรมบำบัด เพื่อพัฒนาการใช้ร่างกาย
- การสนับสนุนจากครอบครัวและโรงเรียนสำคัญมาก
ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) คือ ความผิดปกติทางพันธุกรรม ที่เกิดจากการมี โครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง รวมเป็น 47 แท่ง (ปกติคนทั่วไปมี 46 แท่ง) ภาวะนี้ทำให้บุคคลมีลักษณะทางร่างกายเฉพาะและมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กทั่วไป มีใบหน้าเป็นลักษณะเฉพาะ ระดับสติปัญญาของผู้ป่วยเหล่านี้อาจมีความแตกต่างกันได้มากเมื่อโตขึ้น และอาจมีปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ทำให้ผู้ป่วยโรคนี้ต้องได้รับการดูแลปัญหาสุขภาพมากกว่าคนปกติ
กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสตั้งครรภ์ทารกดาวน์ซินโดรม
คุณแม่ที่มีอายุมาก อายุ 35 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงสูงกว่าคุณแม่อายุน้อย
มีประวัติคนในครอบครัวหรือญาติสายตรงเป็นดาวน์ซินโดรม
หากคุณแม่ เคยคลอดบุตรคนก่อนเป็นดาวน์ซินโดรมแล้ว การตั้งครรภ์ครั้งถัดไปจะมีความเสี่ยงที่ทารกเป็นดาวน์ซินโดรมอีก
ลักษณะเด่น ของดาวน์ซินโดรม
ลักษณะภายนอก
หน้าแบน
ดั้งจมูกเตี้ย
ตาเฉียงขึ้น
ลิ้นยื่นและจุกที่ปาก
ช่องปากแคบ
ท้ายทอยแบน
ใบหูเล็ก
พัฒนาการทางสมอง
เชาวน์ปัญญาต่ำ ทำให้มีปัญหาด้านพัฒนาการ
การเรียนรู้และการพูดช้ากว่าเด็กทั่วไป
สุขภาพร่างกาย
มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ
อาจมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์และระบบย่อยอาหาร
พฤติกรรม
โดยทั่วไปเป็นมิตร ยิ้มง่าย เข้ากับคนอื่นได้
แนวทางการดูแลรักษาดาวน์ซินโดรม
ผู้ป่วยกลุ่มนี้ป่วยง่าย จึงต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสม ถูกสุขอนามัย พร้อมกับต้องมีการฝึกฝนพัฒนาการ เช่น การช่วยเหลือตัวเอง ควบคุมตนเอง ฝึกพูดเพื่อปฏิสัมพันธ์ กายภาพบำบัดเหมาะสม
ออทิสติก และ ดาวน์ซินโดรม เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?
ความเหมือน
ทั้ง ออทิสติก และ ดาวน์ซินโดรม เป็นภาวะที่ส่งผลต่อ พัฒนาการของเด็กที่ช้า ทำให้เด็กมีความแตกต่างด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร และการเข้าสังคม อีกทั้งยังเป็นภาวะที่ ไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่สามารถบำบัดและดูแลเพื่อพัฒนาให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
นอกจากนี้ เด็กที่เป็นออทิสติกและดาวน์ซินโดรมต่างก็ ต้องการการดูแลเฉพาะทาง ทั้งการดูแล ฝึกพูด กายภาพบำบัด และการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคม เพื่อช่วยให้พัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ และสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้
ความแตกต่าง
ถึงแม้จะมีจุดร่วมบางอย่าง แต่ต้นกำเนิดและลักษณะของสองภาวะนี้ต่างกันชัดเจน
- ออทิสติก เกิดจาก ความผิดปกติของการทำงานของสมองและระบบประสาท ส่งผลให้มีปัญหาด้านการสื่อสาร พฤติกรรมซ้ำ ๆ และเข้ากับสังคมได้ยาก เด็กออทิสติกบางคนอาจมีความสามารถเฉพาะด้านโดดเด่น เช่น คณิตศาสตร์ ดนตรี หรือศิลปะ
- ดาวน์ซินโดรม เกิดจาก ความผิดปกติทางพันธุกรรม โดยมีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง ทำให้มีลักษณะทางร่างกายเฉพาะ เช่น หน้าแบน ตาเฉียง ลิ้นใหญ่ และพัฒนาการด้านสติปัญญาช้ากว่าเด็กทั่วไป
การตรวจคัดกรอง
ออทิสติก
ตรวจได้ หลังคลอด ในช่วงอายุ 3-5 ปี
ดาวน์ซินโดรม
สามารถคัดกรองได้ด้วยการตรวจ NIPT ตั้งแต่อายุ 10 สัปดาห์ขึ้นไป หรือ หลังคลอด ด้วยการตรวจ KARYOTYPE และหากทำ ICSI ร่วมกับการตรวจ PGT (การตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน) จะช่วย ลดโอกาสที่ทารกจะเกิดมาพร้อมความผิดปกติทางพันธุกรรม
สำหรับคู่สมรสที่มีความกังวลเกี่ยวกับ ความผิดปกติทางพันธุกรรม และกังวลกับปัจจัยเสี่ยงที่ว่าลูกจะเป็นออทิสติกหรือดาวน์ซินโดรม ควรปรึกษาแพทย์หากกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนมีบุตร ปัจจุบันสามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่ระยะตัวอ่อนด้วยวิธี PGT (Preimplantation Genetic Testing) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการตรวจวิเคราะห์โครโมโซมตัวอ่อนก่อนย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ช่วย ลดความเสี่ยงที่ทารกจะเกิดมาพร้อมความผิดปกติทางพันธุกรรม
ที่ DHC IVF Center เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและห้องแล็บที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้คู่สมรสมั่นใจได้ว่าตัวอ่อนที่ถูกคัดเลือกมีสุขภาพแข็งแรง และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
🍀Deep & Harmonicare IVF Center ศูนย์ให้บริการรักษา ภาวะผู้มีบุตรยาก ด้วยมาตรฐาน JCI และเครื่องมือที่ทันสมัยระดับสากล👏🏻🥇กับ%ความสำเร็จที่มากขึ้น 🌱พร้อมให้บริการ และ คำปรึกษา ทักมาหาเราได้เลยค่ะสามารถ add line , Inbox หรือโทรสอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ปรึกษาติดต่อ : 0937891313
ติดต่อทำนัด : 0630985141
Website : https://dhcivfthai.com/
IG , LineOA : @dhcivf.th
FB : Deep&Harmonicare IVF Center
youtube : deep harmonicare
📧 Email: [email protected]
📌 Deep&Harmonicare IVF Center https://goo.gl/maps/unBQie5wSkkSU1eNA
About Author
