IUI การฉีดเชื้อผสมเทียม คืออะไร ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ สำหรับผู้มีบุตรยาก จริงหรือ??
IUI คืออะไร
การฉีดเชื้อผสมเทียม หรือ IUI คือ
IUI (Intra Uterine Insemination) เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาภาวะมีบุตรยาก “ที่ไม่ได้มาจากปัจจัยด้านอายุ” คือ การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกในวันที่มีไข่ตก เป็นการนำเชื้ออสุจิ ที่ได้รับการปั่นคัดเลือกตัวที่แข็งแรง ฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรง โดยใช้ท่อพลาสติกขนาดเล็ก ๆ สอดผ่านปากมดลูก แล้วฉีดเชื้อ ในช่วงเดียวกันกับการตกไข่ ช่วยให้ตัวอสุจิว่ายขึ้นไป ที่ท่อนำไข่ และผสมกับไข่ง่ายขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นวิธีที่เพิ่มอัตราการความสำเร็จ ของการตั้งครรภ์ จะมากกว่าวิธีธรรมชาติ
ทำไมโอกาส การฉีดเชื้อตั้งครรภ์มีมากกว่า การมีเพศสัมพันธ์เอง ตามธรรมชาติ
การทำ IUI โอกาสสำเร็จในการฉีดแต่ละครั้งคือ 10-15 % ซึ่งมากกว่าวิธีมีเองตามธรรมชาติ (3-4 % ต่อเดือน) ความสำเร็จของการฉีดเชื้อ จะมากกว่าธรรมชาติประมาณ 3-5 เท่า ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้าน เชื้ออสุจิ, ฟองไข่, รวมถึงเยื่อบุโพรงมดลูก โดยอธิบายได้ดังนี้
จำนวนเชื้อ และคุณภาพอสุจิจะดีขึ้น เนื่องจาก
- การฉีดเชื้อช่วยเพิ่มจำนวนตัวเชื้อ ที่จะว่ายขึ้นไปถึงท่อนำไข่ ได้มากขึ้น เพราะธรรมชาติ เชื้อส่วนใหญ่ตายที่ช่องคลอด
- มีการปั่นแยกเพื่อช่วยคัดเลือก ลักษณะเชื้ออสุจิที่คุณภาพดี ทำให้โอกาสปฏิสนธิได้ดี
- ลดระยะทางการว่าย ของเชื้อให้ขึ้นไปที่ท่อนำไข่ได้เร็วขึ้น เนื่องจากฉีดเชื้อ เข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรง
- ฉีดเชื้อตรงกับวันที่ไข่ตก ทำให้เพิ่มโอกาส การปฏิสนธิมากขึ้นจำนวนฟองไข่ (ดูเพิ่ม สัญญานที่บ่งว่าคุณกำลังไข่ตก)
- รอบฉีดเชื้อ จะมีการให้กินยา หรือยาฉีดกระตุ้น เพื่อเพิ่มจำนวนฟองไข่ ส่วนใหญ่ได้จำนวนฟองไข่ มากกว่ารอบธรรมชาติ ซึ่งมีเพียงใบเดียว ดังนั้น เมื่อมีจำนวนไข่มากขึ้น โอกาสที่จะท้องจึงมากขึ้นด้วย และมีโอกาสท้องแฝดมากขึ้นด้วย
- กำหนดการตกไข่ได้แม่นยำ เนื่องจากให้ยาช่วยทำให้ตกไข่ พร้อมกับฉีดเชื้อ ในช่วงที่เหมาะสม จึงทำให้โอกาสไข่ถูกผสมมากขึ้น เยื่อบุโพรงมดลูก
- รอบที่ฉีดเชื้อ จะมีการอัลตราซาวด์ ติดตามความหนาของเยื้อบุด้วย หากพบความหนาไม่เหมาะสม ก็จะช่วยแก้ไขให้ดีขึ้น จึงทำให้ตั้งครรภ์สำเร็จสูงขึ้นด้วย เหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์ จากการฉีดเชื้อสูงขึ้น กว่าวิธีธรรมชาติ
ใครบ้างที่เหมาะจะเข้ารับการรักษาโดยการฉีดเชื้อ IUI (IUI : Intra Uterine Insemination)
ฝ่ายหญิง
-ควรจะอายุน้อยกว่า 30 ปี หากอายุมากขึ้นความสำเร็จจะลดลง
-มีปัญหาปากมดลูกหรือคอมดลูกตีบ
-มีภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง หรือ PCOS
-ท่อนำไข่ต้องปกติทั้งสองข้าง หรืออย่างน้อยต้องดีหนึ่งข้าง
ฝ่ายชาย
-มีเชื้ออสุจิที่วิ่งดีมากเพียงพอมากกว่ากว่า 5 ล้านตัวขึ้นไป
ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนรักษา
- ฝ่ายหญิงและชาย รับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ เสริมด้วยวิตามินที่เหมาะสม
- ควรพักผ่อนเพียงพอ โดยนอนหลับอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- งดการสูบบุหรี่หรือดื่มสุรา เพื่อให้ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมน การรักษาได้ดียิ่งขึ้น
- ปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด รายละเอียดดังที่กล่าวข้างต้น
หลังการเข้ารับการรักษา
- ควรนอนพักนิ่งๆ เป็นเวลา 30 นาทีก่อนกลับบ้าน
- งดการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ได้รับการฉีดเชื้อประมาณ 1-2 วัน
ขั้นตอนและระยะเวลาในการฉีดเชื้อ IUI (IUI : Intra Uterine Insemination)
- แพทย์ให้ยากระตุ้นรังไข่โดยการรับประทานหรือการฉีด บางกรณีอาจใช้ทั้งสองวิธีร่วมกัน เริ่มยาในช่วงวันที่ 3-5 ของรอบประจำเดือน ใช้ยาติดต่อไป 5 วัน เพื่อให้ฟองไข่เจริญเติบโตและมีจำนวนพอเหมาะ ประมาณ 1-3 ฟองต่อรอบ
- ในระหว่างการกระตุ้นไข่ จะมีการตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงทางช่องคลอดหรือตรวจเลือดเพิ่มเติมเพื่อประเมินการเจริญเติบโตและตอบสนองของฟองไข่
- เมื่อมีฟองไข่ขนาดโตเหมาะสมคือ 18-20 มิลลิเมตร จะมีการชักนำให้มีการตกไข่ด้วยยาฮอร์โมน หลังฉีดยาไข่จะตก 35-40 ชั่วโมงต่อมา
- ทำการฉีดเชื้ออสุจิที่ผ่านการเตรียมด้วยวิธีมาตรฐานในห้องปฏิบัติการเข้าสู่โพรงมดลูกในวันที่ไข่ตก
- หลังจากฉีดอสุจิเข้าโพรงมดลูกแล้วอาจจะมีการให้ยาเสริมการทำงานของเยื่อบุโพรงมดลูก หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์จะนัดมาทดสอบการตั้งครรภ์
จุดเด่นของวิธีการฉีดเชื้อ IUI (IUI : Intra Uterine Insemination)
เนื่องจากการทำ IUI คือ การฉีดเชื้อมีหลักการใกล้เคียงกับธรรมชาติมาก สามารถทำได้ง่าย สะดวก ไม่ซับซ้อน ค่าใช้จ่ายในการรักษาไม่สูงมากนัก อัตราตั้งครรภ์สะสมดีในช่วง 3-4 รอบของการรักษา
จุดด้อยของวิธีการฉีดเชื้อ IUI (IUI : Intra Uterine Insemination)
พบว่าอัตราตั้งครรภ์ต่ำหากฉีดเกิน 4 รอบแล้วยังไม่สำเร็จ และแทบจะไม่พบความสำเร็จ กรณีฉีดเกิน 6 รอบ อธิบายได้ว่า ปัญหาที่ทำให้มีบุตรยาก ยังไม่ได้รับการรักษาหรือแก้ไขให้ตรงจุด ดังนั้นแนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อรักษาด้วยวิธีเด็กหลอดแก้ว เพราะจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการปฏิสนธิของตัวเชื้อและฟองไข่ได้ สามารถติดตามพัฒนาการของตัวอ่อนจนถึงระยะพร้อมฝังตัวได้ สามารถตัวคัดกรองหาตัวอ่อนปกติก่อนจะย้ายกลับได้ ซึ่งจะช่วยทำให้ประสบผลสำเร็จได้ง่ายขึ้น
โอกาสประสบความสำเร็จจากการทำ IUI (IUI : Intra Uterine Insemination)
โอกาสการตั้งครรภ์จากทำ IUI คือการคัดเลือกเชื้อฉีดเข้าสู่โพรงมดลูกคือ 15-20 % ต่อรอบการรักษา ซึ่งขึ้นกับอายุของคู่สมรส, คุณภาพของน้ำเชื้อ, จำนวนฟองไข่ที่ตกในแต่ละรอบ, และสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก การตั้งครรภ์หลังจากฉีดเชื้อส่วนใหญ่จะเป็นการตั้งครรภ์เดี่ยว มีโอกาสตั้งครรภ์แฝดประมาณ 10-15% โดยรวมวิธีนี้จะมีอัตราความสำเร็จมากกว่าการลองด้วยวิธีธรรมชาติประมาณ 3-5 เท่า
สนใจติดต่อ : Deep & Harmonicare IVF Center ศูนย์ปรึกษาการตั้งครรภ์ และ รักษาภาวะมีบุตรยาก
สอบถามการรักษามีลูกยาก : LINE : @dhcivf.th
ติดตามข่าวความรู้เรื่องรักษามีบุตรยาก ได้ที่ : fb.me/DeepHarmoniCareIVF
ติดต่อเรา : 093-7891313