โรคธาลัสซีเมียคืออะไร? เป็นพาหะธาลัสซีเมียมีลูกได้หรือไม่?
ธาลัสซีเมียคืออะไร?
โรคธาลัสซีเมียหรือโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย เป็นภาวะความผิดปกติทางพันธุกรรมระดับยีน สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูก พบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิง โรคโลหิตจางธาลัสซีเมียเกิดจากความผิดปกติของการสร้างฮีโมโกลบิล(Hemoglobin) ซึ่งเป็นสารถสำคัญในเม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ส่งออกซิเจนไปยังอวัยวะภายในร่างกาย ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงเกิดการแตกหักและถูกทำลายได้ง่าย ทำให้ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียมีภาวะเลือดจาก(Anemia) ในบางกรณีอาจมีอาการเรื้อรังมาตั้งแต่เกิด หรืออาจจะตลอดชีวิต ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ นอกจากผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียจะเข้ารับการปลูกถ่ายไขกระดูก หรือการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด
และการที่ร่างกายขาดเซลล์เม็ดเลือดแดงที่แข็งแรง ส่งผลให้เชลล์ต่างๆ ในร่างกายขาดออกซิเจนที่จำเป็นต่อการทำงาน เพราะเซลล์เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่สำคัญในการขนส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย
พาหะธาลัสซีเมียคืออะไร
พาหะธาลัสซีเมีย คือ ผู้ที่มีความผิดปกติของยีนใดยีนหนึ่ง ซึ่งปกติแล้วผู้ที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียจะไม่ได้แสดงอาการใดนอกจากมีภาวะโลหิตจางเพียงเล็กน้อย หรือระดับที่ไม่รุนแรง โดยพาหะธาลัสซีเมียเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่มียีนผิดปกติจากพ่อแม่สู่ลูก โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณีได้ดังนี้
- หากพ่อหรือแม่ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มียีนที่ผิดปกติเป็นยีนเด่นเพียงยีนเดียว ลูกที่เกิดมาอาจมีโอกาสเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียและมีภาวะโลหิตจางเพียงในระดับที่ไม่รุนแรง
- หากพ่อและแม่ เป็นพาหะธาลัสซีเมีย ลูกที่เกิดมามีแนวโน้มที่จะเป็นโรคธาลัสซีเมียและมีภาวะโลหิตจางที่รุนแรง
ประเภทของพาหะธาลัสซีเมีย
พาหะธาลัสซีเมียจะแบ่งออกตามส่วนของฮีโมโกลบิลที่โดนผลกระทบและความรุนแรงของโรคธาลัสซีเมีย โดยจะมีอยู่ 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ อัลฟ่าธาลัสซีเมีย (Alpha-Thalassemia) และ เบต้าธาลัสซีเมีย (Beta-Thalassemia) ซึ่งธาลัสซีเมียในกลุ่มเบต้าจะมีความรุนแรงที่สุด แต่หากเป็นเพียงแค่พาหะธาลัสซีเมียจะไม่ได้มีอาการทางสุขภาพร้ายแรงแต่อย่างใด อาจมีเพียงความเสี่ยงของการเกิดโรคเท่านั้น
อัลฟ่าธาลัสซีเมีย (Alpha-Thalassemia)
อัลฟ่า-ธาลัสซีเมีย 1 (a-thalassemia 1)
อัลฟ่า-ธาลัสซีเมีย 2 (a-thalassemia 2)
ฮีโมโกลบินคอนสแตนท์สปริง (Hb Constant Spring)
โดยพาหะธาลัสซีเมียในกลุ่มของอัลฟ่า สามารถทำให้เกิดโรคโลหิตจากธาลัสซีเมียที่มีความรุนแรงมาก โดยอาจจะส่งผลทำให้ลูกเสียชีวิตตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์
เบต้าธาลัสซีเมีย (Beta-Thalassemia)
เบต้า-ธาลัสซีเมีย (β-thalassemia)
โมโกลบินอี (Hb E)
พาหะธาลัสซีเมียในกลุ่มของเบต้านั้นไม่ได้รุนแรงเท่ากับกลุ่มของอัลฟ่า โดยมักจะมีอาการซีด และตัวเหลือง ในบางรายอาจมีภาวะโลหิตจางมากต้องเข้ารับการรักษาโดยการให้เลือด
โรคโลหิตจางธาลัสซีเมียส่งผลกระทบต่อร่างกายยังไง
เมื่อเราเป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ร่างกายจะผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงน้อยลง ส่งผลให้ร่างกายมีอาการเกี่ยวกับโรคโลหิตจาง ทำให้มีร่างกายมีอาการอ่อนเพลียและมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยดังนี้
- ภาวะซีด
- ปวดศรีษะ
- วิงเวียน
- หัวใจเต้นเร็ว
- หายใจเร็วและยากมากขึ้น
- ไม่มีสมาธิ
ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีธาตุเหล็กมาก เช่น เลือดสัตว์ ตับ ผักโขม
- งดยา งดวิตามินที่เสริมธาตุเหล็ก และวิตามินซี
- เน้นทาน ผัก ผลไม้ไข่ นม หรือน้ำนมถั่วเหลือง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เลือด ตับ เครื่องในสัตว์
- ควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโฟลิก (Folic) เพื่อช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง โดยเฉพาะผักใบเขียว และผลไม้รสเปรี้ยว เช่น คะน้า อะโวคาโด และมะนาว เป็นต้น
- ควรออกกำลังกายแบบเบาเป็นประจำ แต่ไม่ควรทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหนัก
- ไม่ควรซื้อยาหรือวิตามินบำรุงเลือดมาทานเอง เพราะยาอาจมีธาตุเหล็กผสมอยู่และอันตรายต่อร่างกาย
- งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
- หากมีอาการผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ทันที
การป้องกัน
- อย่างที่ทราบกันดีว่าโรคธาลัสซีเมียมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม ดังนั้นผู้ที่วางแผนการมีบุตร ต้องการสร้างครอบครัว ควรมาตรวจคัดกรองหาพาหะธาลัสซีเมีย เพราะแม้ว่าในร่างกายจะมีพาหะของโรคธาลัสซีเมียก็สามารถมีบุตรได้ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาว่าพาหะของโรคธาลัสซีเมีย เป็นพาหะชนิดใด มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันบุตรที่เกิดมาเป็นโรคธาลัสซีเมีย
ควรตรวจคัดกรองผู้ที่มียีนแฝงตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ ซึ่งคู่สมรสที่อยากมีลูก ควรตรวจหาภาวะนี้ที่อาจมีซ่อนอยู่ในตัว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีลูก
- ธาลัสซีเมียป้องกันได้โดยการตรวจคัดกรองผู้ที่มียีนแฝงตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์
- โดยคู่สมรสที่ควรตรวจหาภาวะนี้ที่อาจมีซ่อนอยู่ในตัว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีลูก
โรคธาลัสซีเมียสามารถรักษาได้หรือไม่?
วีธีการรักษาโรคธาลัสซีเมียขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของอาการของโรค หากผู้ป่วยเป็นเพียงพาหะธาลัสซีเมีย หรือ พาหะธาลัสซีเมียในกลุ่มอัลฟ่าธาลัสซีเมีย หรือเบต้าธาลัสซีเมีย ผู้ป่วยอาจมีแนวโน้มที่จะมีอาการโลหิตจางในระดับที่ไม่รุนแรงและไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาแต่อย่างใด
ผู้ป่วยอาจมีอาการโลหิตจากเพียงเล็กน้อยถึงระดับที่รุนแรงได้ หากผู้ป่วยเป็นโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียในกลุ่มที่มีความรุนแรง ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ เช่น การให้เลือด รับยาในกลุ่มยารักษาของโรคธาลัสซีเมีย หรือเข้ารับการปลูกถ่ายเลือด และการปลูกถ่ายไขกระดูกสันหลัง
การให้เลือด (Blood transfusion)
ในกลุ่มของผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียระดับปานกลางไปจนถึงระดับที่รุนแรง การรักษาด้วยวิธีการให้เลือดคือวิธีการรักษาหลัก โดยการรักษาด้วยวิธีการให้เลือดเป็นการรักษาเพื่อเพิ่มระดับของเซลล์เม็ดเลือดที่มีฮีโมโกลบิลที่แข็งแรง
การปลูกถ่ายเลือดและไขกระดูกสันหลัง (Blood and bone marrow transplantation)
การปลูกถ่ายเลือดและไขกระดูกสันหลัง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากระบวนการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell) เป็นการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดแดงที่แข็งแรงจากผู้บริจาค ซึ่งเป็นวิธีการรักษาโรคธาลัสซีเมียที่หายขาดได้ แต่มีผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่หาผู้บริจาคที่มีเนื้อเยื่อตรงกันและรักษาได้สำเร็จ
เป็นพาหะธาลัสซีเมียมีลูกได้หรือไม่?
โดยทั่วไปแล้วผู้ที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียจะไม่แสดงอาการ หากไม่ได้รับการตรวจจากแพทย์ การเป็นพาหะธาลัสซีเมียหรือเป็นโรคธาลัสซีเมียจะไม่ส่งผลต่อความสามารถในการมีลูกแต่อย่างใด พ่อแม่ที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียสามารถมีลูกได้ปกติ แต่สิ่งที่พ่อแม่ควรระวังคือลูกที่เกิดมาอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคธาลัสซีเมียได้
สรุปแล้วพ่อแม่ที่เป็นพาหะธาลัสซีเมียสามารถมีลูกได้และการเป็นพาหะธาลัสซีเมียหรือเป็นโรคธาลัสซีเมียจะไม่ส่งผลต่อความสามารถในการสืบพันธุ์แต่อย่างใด พร้อมทั้งยังสามารถเข้ารับการกระตุ้นเพื่อให้มีบุตรง่ายขึ้นได้อีกด้วย
References or source
https://www.cdc.gov/ncbddd/thalassemia/treatment.html
https://www.nhs.uk/conditions/thalassaemia
https://www.gov.uk/government/publications/baby-at-risk-of-having-thalassaemia-description-in-brief/information-and-choices-for-women-and-couples-at-risk-of-having-a-child-with-thalassaemia-major
https://www.nhlbi.nih.gov/health/thalassemia
www.petcharavejhospital.com/
www.ram-hosp.co.th
. . .
Deep & Harmonicare IVF Center ศูนย์ให้บริการรักษา ภาวะผู้มีบุตรยาก ด้วยมาตรฐาน JCI และเครื่องมือที่ทันสมัยระดับสากล กับ%ความสำเร็จที่มากขึ้น พร้อมให้บริการ และ คำปรึกษา ทักมาหาเราได้เลยค่ะ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ดังนี้
สนใจติดต่อ : Deep & Harmonicare IVF Center ศูนย์ปรึกษาการตั้งครรภ์ และ รักษาภาวะมีบุตรยาก
สอบถามการรักษามีลูกยาก : LINE : @dhcivf.th
ติดตามข่าวความรู้เรื่องรักษามีบุตรยาก ได้ที่
FACEBOOK : Deep & Harmonicare IVF Center
ติดต่อเรา : 093-7891313